ชายชราพบ “หินผมหงอก” สร้างความฮือฮาในหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อว่าอาจเป็นของขวัญจากสวรรค์ แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบ กลับพบว่าแท้จริงแล้วมันคือสิ่งมีชีวิตหายาก จนต้องสั่งปิดล้อมทั้งหมู่บ้านเพื่อปกป้องการค้นพบนี้
แม้ว่าเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปมากเพียงใด แต่ธรรมชาติก็ยังคงซ่อนความลึกลับไว้มากมาย มนุษย์เองก็ยังไม่สามารถไขปริศนาทั้งหมดได้ เพราะโลกของเรายังมีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดอีกมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ บางครั้งแม้แต่ก้อนกรวดข้างทางก็อาจซ่อนความลับจากอดีตอันยาวนานเอาไว้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อชายชราผู้หนึ่งกำลังเดินกลับบ้านในช่วงเย็น เขาสังเกตเห็นแสงสะท้อนบนพื้นหญ้าและพบวัตถุประหลาดที่ดูคล้ายก้อนหิน แต่มีขนสีขาวขึ้นอยู่ด้านบนเหมือนผมหงอก ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหินที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อน เขาจึงเชื่อว่านี่อาจเป็นของขวัญจากสวรรค์ และนำกลับบ้านไปให้ญาติและเพื่อนบ้านช่วยกันตรวจสอบ ทุกคนต่างเห็นว่าหินก้อนนี้ไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร
ข่าวการค้นพบหินประหลาดแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผู้คนจากทั่วหมู่บ้านต่างพากันมาดูด้วยตาตนเอง เกิดการคาดเดาและเล่าขานเรื่องราวต่างๆ มากมาย จนสร้างความวุ่นวายให้กับชุมชน รัฐบาลจึงส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและวิจัยอย่างละเอียด
หลังจากการศึกษานานหลายวัน ผู้เชี่ยวชาญได้ข้อสรุปว่า “ขนสีขาว” ที่เห็นนั้นไม่ใช่เส้นผมของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในทะเลโบราณ ซึ่งมีลักษณะเป็นปรสิตและเกาะติดกับพื้นผิววัตถุอย่างแน่นหนา ไม่สามารถล้างหรือขูดออกได้ ลักษณะคล้ายเส้นผมหงอกเกิดจากท่อบางๆ ที่สิ่งมีชีวิตนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ลำเลียงสารอาหารและขับถ่าย
สิ่งมีชีวิตชนิดนี้หายากมากจนแทบจะสูญพันธุ์ การค้นพบครั้งนี้จึงมีความสำคัญต่อการศึกษาวิจัยสิ่งมีชีวิตโบราณ ผู้เชี่ยวชาญจึงขอให้ปิดล้อมพื้นที่รอบหมู่บ้านเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตนี้ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ
ผู้เชี่ยวชาญยังอธิบายเพิ่มเติมว่า หมู่บ้านที่พบหินนี้ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล จึงเป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ถูกคลื่นทะเลพัดพามา และพื้นผิวของหินที่เรียบลื่นก็เหมาะสำหรับการเกาะอาศัยของพวกมัน
สำหรับชายชราผู้ค้นพบ ในตอนแรกเขาคิดว่าหินนี้อาจกลายเป็นคริสตัลได้ แต่เมื่อทราบข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญก็รู้สึกโล่งใจ และเมื่อรู้ว่าหินนี้มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ เขาจึงยินดีมอบให้รัฐบาลเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์นำไปศึกษาต่อไป